Get In Touch
3803 QiSS Mall, Floor 3 Room A2-302,
Rama IV Rd., Prakanong, Klongtoey,
Bangkok 10110 Thailand
yeeraf.co.th
EN: 080-089-0454 / TH: 097-2312-444
Work Inquiries
[email protected]
EN: 080-089-0454 / TH: 097-2312-444
Back

Storytelling & Pitching: เทคนิคการเล่าเรื่องและการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพ


ความสำคัญของ Storytelling

Storytelling หรือการเล่าเรื่อง ไม่ได้ใช้เฉพาะในงานโฆษณาหรือภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นทักษะสำคัญในหลายบริบท เช่น:

  • การประชุม
  • การพรีเซนต์
  • การพูดคุยในที่ทำงาน
  • การตลาดและการขาย
  • การสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่น

เหตุผลที่ควรรู้จักการเล่าเรื่อง คือ การสื่อสารที่ดีต้องสามารถสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมโยง และกระตุ้นการจดจำได้ ซึ่ง Storytelling ช่วยทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม และโน้มน้าวได้มากกว่าการให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมา


นิยามของ Storytelling

Storytelling คือความสามารถในการพูดเพื่อโน้มน้าว (convincing communication) โดยใช้โครงสร้างเรื่องราวเพื่อแปลงแนวคิดที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และเข้าถึงผู้ฟังในระดับที่ลึกขึ้น

องค์ประกอบพื้นฐานของ Storytelling:

  • Character: ตัวละครหลักที่ผู้ฟังสามารถเชื่อมโยงได้
  • Plot: โครงเรื่องที่มีจุดเริ่มต้น กลาง และจุดจบ
  • Conflict: ความขัดแย้งหรือปัญหาที่ต้องเผชิญ
  • Theme: แนวคิดหลักของเรื่อง
  • Setting: ฉากหรือบริบทของเรื่องราว

ประโยชน์ของการใช้ Storytelling

  1. ช่วยดึงความสนใจจากผู้ฟัง (Capture attention)
  2. ทำให้เกิดความรู้สึกคล้อยตาม (Create emotional connection)
  3. เสริมสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมโยง (Build rapport)
  4. สร้างแรงบันดาลใจ (Inspire action)
  5. ทำให้ข้อมูลจดจำง่ายขึ้น (Enhance memory retention)

การเล่าเรื่องคือวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเข้าถึงผู้ฟัง


การวางแผน Storytelling

การเล่าเรื่องไม่ใช่แค่พูดตามใจ แต่ต้องมีการวางแผนชัดเจน:

  1. Objective: จุดประสงค์ของการเล่าเรื่อง
  2. Key Message: ข้อความหลักที่ต้องการสื่อ
  3. Expected Outcome: สิ่งที่คาดหวังให้ผู้ฟังทำหรือเข้าใจหลังฟังจบ

การวางโครงสร้างจะช่วยให้เนื้อหามีจุดมุ่งหมาย และไม่เสียเวลาในการสื่อสาร


เทคนิคการเล่าเรื่อง

  • ใช้ภาพหรือสื่อช่วยเล่า (Make it visual)
  • สร้างความประหลาดใจ (Add surprise)
  • ตัดเนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องออก (Skip irrelevant detail)
  • มีตัวละครหลักและศัตรู (Have an enemy and a hero)
  • เล่าเรื่องในมุมส่วนตัว (Make it personal)
  • ใช้ภาษาที่พูดได้จริง (Tell the story like you talk)

ทุกเรื่องที่ดีควรมีจุดพีค มีอารมณ์ และมีความน่าสนใจจากมุมมองผู้เล่า


องค์ประกอบการนำเสนอที่เสริม Storytelling

  • การใช้สายตา (Eye contact)
  • การแสดงออกทางร่างกาย (Body language)
  • การใช้เสียงและคำพูด (Tone and delivery)
  • การออกแบบสไลด์ (เช่น การใช้ตัวอักษร, การเว้นระยะ, องค์ประกอบภาพ)

จุดสำคัญหลังเล่าเรื่อง: Call to Action

เรื่องราวที่ดีควรมีจุดสิ้นสุดที่ชัดเจนและกระตุ้นการกระทำ เช่น:

  • ขอการตัดสินใจ (Decision)
  • ขอการสนับสนุน (Support)
  • ขอความร่วมมือ (Join the cause)

Call to Action คือสะพานเชื่อมระหว่างแรงบันดาลใจและการลงมือทำจริง


สรุปแนวคิดหลัก (Key Takeaway)

  1. ฝึกฝนคือกุญแจสำคัญ (Practice makes perfect)
  2. กฎมีไว้ให้เข้าใจและปรับใช้ ไม่ใช่จำกัด (Rules are to be broken)
  3. การเล่าเรื่องที่ดีเกิดจากการเข้าใจตนเองและผู้ฟัง (Know your audience)

บทความนี้จัดทำขึ้นภายใต้กิจกรรม Knowledge Sharing โดยบริษัท ยีราฟ จำกัด เพื่อส่งเสริมทักษะด้านการสื่อสาร การนำเสนอ และการพัฒนาความสามารถในการโน้มน้าวใจในบริบทของการทำงานและการขาย

Preloader image