Get In Touch
3803 QiSS Mall, Floor 3 Room A2-302,
Rama IV Rd., Prakanong, Klongtoey,
Bangkok 10110 Thailand
yeeraf.co.th
EN: 080-089-0454 / TH: 097-2312-444
Work Inquiries
[email protected]
EN: 080-089-0454 / TH: 097-2312-444
Back

INTELLIGENT INVESTOR: บทเรียนจาก Benjamin Graham ที่สอน Warren Buffett และนักลงทุนทั่วโลก


ทำไมต้องออม?

การออมเป็นรากฐานสำคัญของการมีอิสรภาพทางการเงิน โดยเฉพาะในยุคที่ภาวะเงินเฟ้อส่งผลต่อมูลค่าของเงินในระยะยาว หากไม่มีการวางแผนการออมล่วงหน้า ย่อมกระทบต่อเป้าหมายสำคัญ เช่น เกษียณอายุ การลงทุน การรักษาพยาบาล หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่คาดไม่ถึง

การเปรียบเทียบกับ “ตู้ปลา” ทำให้เห็นภาพง่ายขึ้น: เงินเดือนของเราคือปริมาตรของน้ำในตู้ ส่วนปลาคือรายจ่ายในแต่ละวัน หากขนาดของตู้เปลี่ยนไป (เช่น เงินเดือนลดลง) แต่พฤติกรรมการใช้เงินยังเท่าเดิม ย่อมไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว


เงินเฟ้อคืออะไร?

เงินเฟ้อคือภาวะที่ราคาสินค้าและบริการโดยทั่วไปปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มูลค่าของเงินลดลงเมื่อเทียบกับระยะเวลา หากไม่มีการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ ค่าเงินในมือจะค่อย ๆ เสื่อมมูลค่าลง เช่น เงิน 100 บาทในวันนี้ อาจซื้อของได้น้อยลงในอีก 5 ปีข้างหน้า


นักลงทุน vs นักเล่นหุ้น

Benjamin Graham ผู้เขียนหนังสือ “The Intelligent Investor” ได้แบ่งผู้ที่อยู่ในตลาดหุ้นออกเป็น 2 กลุ่ม:

  • Investor: ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนลงทุน, มองระยะยาว, พิจารณาปัจจัยพื้นฐาน
  • Trader: มองระยะสั้น, ซื้อ–ขายตามกระแส, ตัดสินใจจากความเคลื่อนไหวของราคาในตลาด

แนวคิดของ Graham คือ นักลงทุนควรลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ มีการศึกษาข้อมูลมาอย่างรอบคอบ ไม่ใช่เพียงการคาดเดาทิศทางของตลาด


พฤติกรรมของ Defensive Investor

Graham แนะนำให้คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพยึดแนวทางของ “Defensive Investor” หรือผู้ลงทุนเชิงป้องกัน โดยมีลักษณะดังนี้:

  • ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
  • เลือกสินทรัพย์ที่มีความมั่นคง เช่น กองทุนดัชนี หุ้นพื้นฐานดี
  • ใช้วิธี Dollar Cost Averaging (DCA) ลงทุนในจำนวนที่เท่า ๆ กันเป็นประจำ
  • หลีกเลี่ยงการตัดสินใจจากอารมณ์หรือกระแสตลาดระยะสั้น
  • ทบทวนพอร์ตการลงทุนเป็นระยะ และปรับอัตราส่วนตามกลยุทธ์ เช่น 75% ลงทุน / 25% ฝากประจำ

แผนการลงทุน: แนวทางของ Defensive Investor

ตัวอย่างแผนการลงทุนเชิงป้องกัน:

  • แบ่งเงินออมเป็น 75% สำหรับลงทุน และ 25% สำหรับเงินฝาก
  • ทุกสิ้นปี ตรวจสอบมูลค่าพอร์ต หากอัตราส่วนเปลี่ยนแปลง เช่น หุ้นขึ้นมาก ให้ขายบางส่วนเพื่อนำเงินกลับไปฝาก (Rebalance)
  • หลัก Buy Low / Sell High ใช้ข้อมูลเช่นช่วงราคา 52 สัปดาห์ย้อนหลังมาช่วยประกอบการตัดสินใจ

การเตรียมความพร้อมก่อนลงทุน

ก่อนเริ่มลงทุนอย่างเป็นระบบ ควรดำเนินการพื้นฐาน 5 ข้อนี้ก่อน:

  1. มีเงินสำรองฉุกเฉิน (Emergency Fund)
  2. ปิดหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง
  3. จัดทำงบประมาณรายรับ–รายจ่าย
  4. ทำประกันสุขภาพ/ชีวิตพื้นฐาน
  5. เริ่มวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ

ทำความเข้าใจตัวชี้วัดทางการเงินพื้นฐาน (Financial Metrics)

การอ่านงบการเงินเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญของนักลงทุน โดย Graham แนะนำให้พิจารณาค่าต่าง ๆ เช่น:

  • P/E Ratio (Price to Earnings): บอกระดับราคาหุ้นเทียบกับกำไร
  • EPS (Earnings per Share): กำไรสุทธิต่อหุ้น
  • P/BV (Price to Book Value): ราคาต่อมูลค่าทางบัญชี
  • D/E Ratio (Debt to Equity): ความสามารถในการบริหารหนี้
  • Free Cash Flow: เงินสดที่บริษัทสามารถนำไปลงทุนต่อได้

ดัชนีที่ควรเข้าใจ: S&P 500 vs SET50

  • S&P 500 Index: ดัชนีของหุ้นขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ใช้เป็นตัวแทนของเศรษฐกิจโดยรวม
  • SET50: ดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งสองดัชนีเหมาะกับการลงทุนแบบ Passive ผ่านกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) หรือ ETF ซึ่งเข้ากับแนวทางของ Defensive Investor


สรุปแนวคิดหลักจาก The Intelligent Investor

  • ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจ และมีข้อมูลรองรับอย่างถี่ถ้วน
  • หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวตามตลาดระยะสั้น หรือข่าวลือ
  • วางแผนอย่างมีวินัย ใช้กลยุทธ์ DCA และปรับพอร์ตสม่ำเสมอ
  • เลือกลงทุนผ่านกองทุนที่มีผลประกอบการระยะยาวที่มั่นคง และมีการบริหารจัดการมืออาชีพ
  • พิจารณาความเสี่ยงก่อนผลตอบแทนเสมอ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Knowledge Sharing โดยบริษัท ยีราฟ จำกัด เพื่อแบ่งปันแนวคิดทางการเงินที่เป็นระบบ และเสริมสร้างวินัยการลงทุนให้กับบุคลากรทุกระดับในองค์กร

Preloader image