เรื่องที่คนไม่รู้เกี่ยวกับ Google SGE (Search Generative Experience)

Google SGE หรือ Search Generative Experience คือระบบ AI Search ที่กำลังเปลี่ยนโลกของการค้นหาอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และนี่คือสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับ SGE – พร้อมวิธีการเตรียมตัวให้เว็บไซต์ของคุณอยู่รอดและเติบโต
1. SGE ไม่ใช้ลำดับอันดับเว็บแบบเดิม
ในผลลัพธ์แบบ SGE ไม่มีลำดับเว็บแบบอันดับ 1, 2, 3 เหมือนผลการค้นหาเดิม แต่ใช้รูปแบบการ \”สรุปคำตอบ\” จากแหล่งข้อมูลหลายเว็บในกล่องเดียว
2. ไม่ใช่ทุกเว็บจะได้ขึ้น SGE
SGE ดึงเฉพาะเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ มีโครงสร้างดี (Structured Data) และตอบคำถามอย่างเป็นธรรมชาติในระดับบทความ
3. โครงสร้างบทความมีผลมาก
บทความที่ติด SGE มักมี: H1–H3 ที่ชัดเจน, FAQ, ตารางเปรียบเทียบ, Bullet, Internal/External Link, JSON-LD
4. SGE เชื่อมโยงกับ Bard / Gemini และ Perplexity
หลายบทความที่ติด SGE ยังถูกอ้างถึงใน Perplexity.ai, Bing Copilot และ AI Tools อื่น ๆ ด้วย
5. Content + Technical SEO ต้องทำควบคู่กัน
การติด SGE ไม่ใช่เรื่องเนื้อหาอย่างเดียว ต้องมี Technical SEO เช่น ความเร็ว, Indexing, Structured Data ครบถ้วน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google SGE
- SGE คืออะไร?
SGE หรือ Search Generative Experience คือฟีเจอร์ค้นหาใหม่ของ Google ที่ใช้ AI สรุปผลการค้นหา - จะรู้ได้อย่างไรว่าเว็บเราติด SGE?
ต้องลองค้นหาคำที่เราทำ SEO แล้วดูในกล่อง SGE ว่ามีลิงก์เว็บเราหรือไม่ (ยังไม่มีเครื่องมือเฉพาะ) - บทความแบบไหนที่มีโอกาสติด SGE?
บทความยาวที่ตอบคำถามเจาะลึก มีโครงสร้างดี มี JSON-LD และ Human-first content - การเขียน FAQ มีผลไหม?
มีผลมาก เพราะ FAQ มักถูกนำไปรวมใน SGE Snippet